ฮอร์โมน (Hormone) คือสารเคมีที่ร่างกายสร้างจากต่อมไร้ท่อหรือเนื้อเยื่อบางส่วน แล้วปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดไปยังอวัยวะเป้าหมาย ทำหน้าที่ “สื่อสาร” ระหว่างเซลล์ ช่วยควบคุมให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานประสานกันเป็นปกติ
หน้าที่และความสำคัญของฮอร์โมน
ฮอร์โมนทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณจากเซลล์หนึ่งไปอีกเซลล์หนึ่ง กระตุ้นการเจริญเติบโต ควบคุมภูมิคุ้มกัน และกำกับกระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) เช่น การใช้พลังงาน ปริมาณน้ำในร่างกาย ความดัน อุณหภูมิ และระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงมีผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ฮอร์โมนผลิตจากอวัยวะใดบ้าง
ต่อมไร้ท่อ (Endocrine glands) และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ผลิตฮอร์โมนได้ ได้แก่
- ต่อมไร้ท่อหลัก: ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต รังไข่ อัณฑะ ตับอ่อน ฯลฯ
- ต่อมไร้ท่อย่อย/ต่อมภายในอวัยวะ: พบกระจายตามอวัยวะ ทำให้เกิดอิทธิพลเฉพาะที่ เช่น ลำไส้
- เนื้อเยื่อ (Tissue): ไขมัน กล้ามเนื้อ ผิวหนัง ก็ผลิตสารคล้ายฮอร์โมนที่มีบทบาทต่อระบบต่าง ๆ
- เซลล์ประสาท (Neuron): ผลิตสารสื่อประสาทบางชนิดที่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมน ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะเป้าหมาย
สาเหตุของ “ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล”
ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น
- พักผ่อนไม่พอ เครียดเรื้อรัง โภชนาการไม่เหมาะสม หรือใช้พลังงานสูงเกินรับประทาน
- วัยและฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะหลังอายุ ~30 ปี ร่างกายบางชนิดจะผลิตลดลง
- ในผู้หญิง มีการเปลี่ยนแปลงตามรอบเดือน ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือวัยใกล้หมดประจำเดือน
- ในผู้ชาย ระดับฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) อาจค่อย ๆ ลดลงตามวัย ร่วมกับมวลกล้ามเนื้อลดและไขมันเพิ่ม
ผลที่ตามมามักเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรง เพราะฮอร์โมนควบคุมระบบสำคัญของร่างกาย
สัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่าระดับฮอร์โมนไม่สมดุล
- พลังงานลดลง เหนื่อยล้าง่าย
- อารมณ์แปรปรวน นอนหลับไม่สนิท
- เปลี่ยนแปลงของน้ำหนักและองค์ประกอบร่างกาย (กล้ามเนื้อลด ไขมันสะสมเพิ่ม)
- ผิวพรรณและเส้นผมเปลี่ยนไป ร่วงง่าย หรือมีสิว
- ประจำเดือนผิดปกติ/อาการก่อนมีประจำเดือนมากขึ้น
- สมรรถภาพทางเพศลดลง หรือแรงขับทางเพศเปลี่ยนไป
- ภูมิคุ้มกันแย่ลง เจ็บป่วยง่าย ป่วยแล้วฟื้นตัวช้า

ประเภทของฮอร์โมนในร่างกาย
- Peptide Hormone: เช่น อินซูลิน (Insulin), โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)
- Steroid Hormone: เช่น เทสโทสเตอโรน (Testosterone), คอร์ติซอล (Cortisol)
- Amine Hormone: เช่น อะดรีนาลีน (Adrenaline), โดพามีน (Dopamine), เมลาโทนิน (Melatonin)
แต่ละชนิดมีโครงสร้างและแหล่งผลิตต่างกัน ทำให้มีฤทธิ์และเป้าหมายไม่เหมือนกัน
ฮอร์โมนที่สำคัญต่อระบบร่างกาย
ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid)
ฮอร์โมนไทรอยด์คือ “ตัวเร่งเมตาบอลิซึม” ของร่างกาย ช่วยกำหนดความเร็วในการเผาผลาญพลังงานและมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานแทบทุกอวัยวะ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ฮอร์โมนนี้จำเป็นต่อพัฒนาการของสมอง ต่อมไทรอยด์มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ อยู่ด้านหน้าลำคอใต้ลูกกระเดือก ทำหน้าที่สร้างและปล่อยฮอร์โมนเข้าสู่กระแสเลือด เป็นส่วนหนึ่งของระบบต่อมไร้ท่อ
โรค/ภาวะที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์
ภาวะไทรอยด์ผิดปกติที่มักพบได้บ่อย โดยผู้หญิงมีโอกาสมากกว่าผู้ชายหลายเท่า ภาวะที่พบ ได้แก่
- Hypothyroidism : ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
- โรค Hashimoto’s thyroiditis : ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากภูมิคุ้มกัน เป็นสาเหตุของภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำที่พบได้บ่อยที่สุด
- Graves’ disease : โรคเกรฟส์ เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับระบบภูมิคุ้มกันของต่อมไทรอยด์
- Thyroiditis : การอักเสบของต่อมไทรอยด์
- Thyroid nodules (ก้อนที่ต่อมไทรอยด์) : การที่ต่อมไทรอยด์มีก้อนเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นก้อนเดี่ยวหรือหลายก้อนก็ได้
- Thyroid cancer : มะเร็งไทรอยด์ เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในต่อมไทรอยด์
ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจไทรอยด์เมื่อไหร่
เพราะฮอร์โมนไทรอยด์ควบคุมการเผาผลาญ หากมากเกินจะ “เร็วผิดปกติ” ถ้าน้อยเกินจะ “ช้าผิดปกติ” อาการที่พบได้บ่อย เช่น
- น้ำหนักขึ้นหรือ ลด แบบไม่ทราบสาเหตุ
- หัวใจเต้นช้าหรือเร็วผิดปกติ
- หนาวง่าย หรือ ร้อนง่ายผิดปกติ
- ผิวแห้งมาก หรือผิวชื้นผิดปกติ
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด เพื่อประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์และวางแผนรักษาอย่างถูกต้อง
บริการ : รายการตรวจการทำงานไทรอยด์
ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone For men)
เทสโทสเตอโรน คือฮอร์โมนหลักของเพศชาย สร้างจาก อัณฑะ เป็นหลัก (และมีเล็กน้อยจากต่อมหมวกไต) ทำหน้าที่หลากหลายตั้งแต่สมรรถภาพทางเพศ ไปจนถึงระบบเลือด กล้ามเนื้อ ไขมัน และกระดูก จึงมีผลทั้งกับร่างกาย อารมณ์ และพลังงานชีวิตในแต่ละวัน
เทสโทสเตอโรนช่วยอะไร
- กระตุ้นการเปลี่ยนผ่านเป็นวัยหนุ่ม: อวัยวะสืบพันธุ์เจริญ ขนตามร่างกายขึ้น เสียงทุ้ม ไหล่กว้าง กล้ามเนื้อเพิ่ม
- สมรรถภาพทางเพศ และแรงขับทางเพศ
- สร้างเม็ดเลือดแดง และเพิ่มพลังงาน
- เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดไขมันสะสม ปรับองค์ประกอบร่างกาย
- คงความหนาแน่นของกระดูก ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
- มีผลต่อ ผิวและต่อมไขมัน (บางคนอาจมีสิว) และ เหงื่อ/กลิ่นตัว
- ส่งผลต่ออารมณ์ สมาธิ และความมั่นใจ
สัญญาณที่อาจบอกว่า “เทสโทสเตอโรนต่ำ”
- พลังงานลด เหนื่อยง่าย ไม่กระฉับกระเฉง
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด เฉื่อยชา หรือซึมเศร้า
- แรงขับทางเพศ/สมรรถภาพทางเพศลดลง การแข็งตัวตอนเช้าลดลง ปริมาณอสุจิน้อยลง
- กล้ามเนื้อลด ไขมันหน้าท้องเพิ่ม น้ำหนักตัวเกิน
- นอนหลับไม่ดี หรือมีปัญหาคุณภาพการนอน
- ประสิทธิภาพการออกกำลังและการฟื้นตัวถดถอย

ฮอร์โมนเพศหญิง (Testosterone For women)
แม้ชื่อจะเป็น “ฮอร์โมนเพศชาย” แต่ผู้หญิงก็มี เทสโทสเตอโรน (Testosterone) เช่นกัน ร่างกายผู้หญิงสร้างฮอร์โมนกลุ่มแอนโดรเจน (รวมถึงเทสโทสเตอโรน) จาก รังไข่, ต่อมหมวกไต, และบางส่วนจาก เนื้อเยื่อไขมัน/ผิวหนัง ปริมาณในผู้หญิงโดยทั่วไปต่ำกว่าผู้ชายราว 1/10–1/20 แต่มีหน้าที่สำคัญต่อระบบพลังงาน อารมณ์ เพศสัมพันธ์ มวลกล้ามเนื้อ และสุขภาพกระดูก
เทสโทสเตอโรนในผู้หญิงช่วยอะไร
- การตอบสนองทางเพศ
- ความมีชีวิตชีวา โฟกัสและอารมณ์
- มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง ช่วยลดไขมันหน้าท้อง
- ความหนาแน่นมวลกระดูก ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
- สุขภาพผิว/เยื่อบุช่องคลอด ความชุ่มชื้นและความสบาย
- เกี่ยวพันกับ สุขภาพเต้านม และองค์ประกอบร่างกายโดยรวม
เมื่อฮอร์โมน “ต่ำกว่าปกติ” มีผลอย่างไร
- การตอบสนองทางเพศลดลง
- เหนื่อยได้ง่าย ไร้เรี่ยวแรง อารมณ์ตก ซึมเศร้าหรือหงุดหงิดง่าย
- กล้ามเนื้อลด ไขมันเพิ่ม ประสิทธิภาพการออกกำลังลดลง
- ช่องคลอดแห้ง เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- ความหนาแน่นกระดูกลด (เสี่ยงกระดูกพรุน)
เมื่อฮอร์โมน “สูงกว่าปกติ” มีผลอย่างไร
- สิวและผิวมัน / มีขนดก
- ผมร่วงแบบผู้ชาย ที่กลางกระหม่อม
- ประจำเดือนผิดปกติ ภาวะไข่ไม่ตก มีบุตรยาก
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogens & progesterone)
ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogens) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) คือฮอร์โมนหลักในเพศหญิงที่ผลิตจากรังไข่ โดยทำงานร่วมกันเพื่อควบคุมรอบเดือน การตั้งครรภ์ และลักษณะทางเพศหญิง
ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogens)
- ช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย: เช่น ทำให้สะโพกผาย มีเต้านม และมีเสียงนุ่มนวลขึ้น
- ควบคุมรอบเดือน: กระตุ้นให้ผนังมดลูกหนาตัวขึ้นในช่วงแรกของรอบเดือน
- กระดูก: ช่วยเสริมสร้างความหนาแน่นของมวลกระดูก
- สมองและอารมณ์: มีผลต่อความจำ และรักษาสมดุลทางอารมณ์
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)
- เตรียมความพร้อมของมดลูก: หลังไข่ตกจะกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาและสมบูรณ์ขึ้น
- รักษาสภาพการตั้งครรภ์: ช่วยยับยั้งการบีบตัวของมดลูกเพื่อป้องกันการแท้ง และเตรียมเต้านมสำหรับการสร้างน้ำนม
- ควบคุมรอบเดือน: ระดับฮอร์โมนจะลดลงหากไม่มีการตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน
ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต (Adrenal Cortex)
ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต (Adrenal Cortex) คือ กลุ่มฮอร์โมนสเตียรอยด์ที่ผลิตจากต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นอวัยวะขนาดเล็กที่อยู่เหนือไตทั้งสองข้าง ฮอร์โมนเหล่านี้มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การเผาผลาญอาหาร ความดันโลหิต และการตอบสนองต่อความเครียด
โรคที่เกี่ยวข้องฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต
- โรคคุชชิง (Cushing’s Syndrome): เกิดจากภาวะคอร์ติซอลในร่างกายสูงเกินไป อาจเกิดจากเนื้องอกของต่อมหมวกไต หรือการใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานานอาการ: ใบหน้ากลม (moon face), มีไขมันสะสมที่ต้นคอ (buffalo hump), แขนขาลีบ, ผิวบาง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, ความดันโลหิตสูง และน้ำตาลในเลือดสูง
- โรคแอดดิสัน (Addison’s Disease): เกิดจากภาวะฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ อาการ: อ่อนเพลีย, น้ำหนักลด, เบื่ออาหาร, คลื่นไส้อาเจียน, ท้องเสีย และผิวคล้ำขึ้น
- ภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ (Adrenal Insufficiency): เป็นภาวะที่ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของต่อมหมวกไตเองหรือต่อมใต้สมอง
ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะบริเวณลำตัว
- น้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ตั้งใจ
- ผิวคล้ำขึ้นผิดปกติ หรือมีรอยแตกสีแดงม่วงตามผิวหนัง
- อ่อนเพลียเรื้อรัง เหนื่อยง่าย ทั้งที่พักผ่อนเพียงพอ
- ความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ
- ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- อารมณ์แปรปรวน เช่น ซึมเศร้า หรือฉุนเฉียวง่าย
- ประจำเดือนมาผิดปกติ
คอร์ติซอล (Cortisol)
คอร์ติซอล เป็นฮอร์โมนสเตียรอยด์ที่สร้างจาก ต่อมหมวกไตส่วนแกนกลาง (Adrenal cortex) ทำหน้าที่ช่วยให้ร่างกาย “รับมือความเครียด” ทั้งทางกายและใจ พร้อมทั้งกำกับกระบวนการสำคัญ ได้แก่ การอักเสบ การเผาผลาญน้ำตาล–ไขมัน–โปรตีน การควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ คอร์ติซอลจึงมีผลต่อพลังงาน อารมณ์ ความดัน และระบบภูมิคุ้มกันของเราโดยตรง
เมื่อคอร์ติซอล “มากไป” หรือ “น้อยไป” ส่งผลอย่างไร
สูงเกิน (Cortisol excess)
- น้ำหนักเพิ่มง่าย ไขมันช่วงลำตัว หน้ากลม หลังคอบ่าเป็นปุ่ม
- น้ำตาลและความดันสูง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผิวบาง ช้ำง่าย สิว
- อารมณ์แปรปรวน นอนยาก ภูมิคุ้มกันผิดปกติ
ต่ำเกิน (Cortisol deficiency)
- อ่อนเพลียมาก น้ำหนักลด เบื่ออาหาร เวียนศีรษะ–เป็นลม ความดันต่ำ
- คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง เกลือแร่ผิดปกติ
- อาจเป็น โรคแอดดิสัน (Addison’s disease) หรือภาวะต่อมหมวกไตล้า
DHEA (ดีเอชอีเอ)
DHEA – Dehydroepiandrosterone คือฮอร์โมนสเตียรอยด์ที่สร้างจาก ต่อมหมวกไตส่วนเปลือก ทำหน้าที่เป็น “สารตั้งต้น” สำคัญในการสร้างฮอร์โมนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะ ฮอร์โมนเพศ (เอสโตรเจน/เทสโทสเตอโรน) ระดับ DHEA จะสูงสุดราวช่วงวัย 20–25 ปี แล้ว ค่อย ๆ ลดลงตามอายุ เชื่อมโยงกับพลังงาน ความยืดหยุ่นของร่างกาย และความสามารถในการรับมือความเครียด
DHEA ทำหน้าที่อะไร
- เป็น สารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศ สนับสนุนสมรรถภาพทางเพศ
- ช่วย คุมอารมณ์/ความเครียด
- สนับสนุน กล้ามเนื้อ–มวลกระดูก และองค์ประกอบร่างกายให้สมดุล
- เกี่ยวข้องกับ ภูมิคุ้มกัน และการอักเสบ
- เกี่ยวพันกับ เมตาบอลิซึม/การเผาผลาญ และการควบคุมน้ำหนัก
- สนับสนุน การทำงานของสมอง ความจำ และความกระตือรือร้นในชีวิตประจำวัน
เมื่อ DHEA “ไม่สมดุล” จะเกิดอะไร
- อ่อนเพลียเรื้อรัง พลังงานต่ำ เฉื่อยชา โฟกัสยาก
- นอนหลับไม่สนิท/คุณภาพการนอนลดลง
- น้ำหนักเพิ่มง่าย ไขมันสะสม โดยเฉพาะรอบเอว
- อารมณ์ตก หงุดหงิด ซึมเศร้า
- สมรรถภาพทางเพศลดลง
- ความหนาแน่นกระดูกถดถอย และภูมิคุ้มกันเปราะบางขึ้น

อัลโดสเตอโรน (Aldosterone)
อัลโดสเตอโรน เป็นฮอร์โมนสเตียรอยด์ที่สร้างจาก ต่อมหมวกไตส่วนเปลือก (Adrenal cortex – zona glomerulosa) ทำหน้าที่สำคัญในการคุม เกลือแร่ น้ำ และความดันโลหิต โดยสั่งให้ไต (และลำไส้ใหญ่บางส่วน) ดูดกลับโซเดียมและน้ำ เข้าสู่กระแสเลือด พร้อมกับ ขับโพแทสเซียมออกทางปัสสาวะ ส่งผลให้ปริมาตรเลือดเพิ่มและความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างเหมาะสม
ทำไมอัลโดสเตอโรนจึงสำคัญ
- รักษา ความดันโลหิต และการไหลเวียน
- คุมสมดุลเกลือแร่ โซเดียม–โพแทสเซียม
- ส่งผลต่อ การทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อ และระบบประสาท
ถ้า “อัลโดสเตอโรนสูงเกิน”
พบได้ในภาวะ Primary Hyperaldosteronism (มักเกิดจากก้อนเนื้องอกไม่ร้ายในต่อมหมวกไต) ลักษณะเด่น:
- ความดันโลหิตสูงดื้อยา หรือควบคุมยาก
- โพแทสเซียมต่ำ (อาจมีอ่อนแรง กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ใจสั่น)
- ปริมาตรเลือดเพิ่ม บวมได้ในบางราย
ถ้า “อัลโดสเตอโรนต่ำเกิน”
พบใน โรคแอดดิสัน (Addison’s disease) หรือภาวะที่ต่อมหมวกไตทำงานลดลง อาการที่อาจพบ:
- ความดันต่ำ หน้ามืดเป็นลม อ่อนเพลียมาก น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
- โพแทสเซียมสูง และโซเดียมต่ำ
เมลาโทนิน (Melatonin)
เมลาโทนิน คือฮอร์โมนที่สร้างจากสมอง (ต่อมไพเนียล) ทำหน้าที่เป็นสัญญาณ ให้ร่างกายรู้ว่าได้เวลาเตรียมตัวนอน เมื่อสภาพแวดล้อม มืดหรือแสงน้อย สมองจะหลั่งเมลาโทนินเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดอาการง่วงนอน โดยทั่วไประดับจะเริ่มสูงขึ้นช่วงค่ำและพุ่งในเวลากลางคืน แล้วค่อย ๆ ลดลงหลังรุ่งเช้า จนต่ำมากในช่วงสายของวัน
หน้าที่สำคัญของเมลาโทนิน
- เริ่มการนอนและยืดระยะเวลาการหลับ ทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
- ช่วยปรับวงจรเมื่อเกิด เจ็ตแล็ก หรือ ตารางทำงานเป็นกะ
- มีบทบาทเสริมด้าน ภูมิคุ้มกัน/ต้านอนุมูลอิสระ
ผลข้างเคียงที่อาจพบ
โดยมาก ไม่รุนแรง และเกิดชั่วคราว เช่น ง่วงซึมตอนกลางวัน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ พบได้น้อย: อารมณ์ซึมลงชั่วคราว กระสับกระส่าย ความดันต่ำ ฝันสด ข้อควรระวัง: หญิงตั้งครรภ์/ให้นมบุตร ผู้ใช้ยาที่มีปฏิกิริยากับเมลาโทนิน (ยากันเลือดเป็นลิ่ม, ยากันชัก, ยากดภูมิ ฯลฯ) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
การเสริมให้เมลาโทนินทำงานได้ดีขึ้น
- แสงเช้า 10–20 นาที ทันทีหลังตื่น
- หรี่ไฟ–งดมองหน้าจอ ก่อนนอน 1–2 ชม. หรือใช้ตัวกรองแสงสีฟ้า
- รักษา เวลาเข้านอน–ตื่น ให้สม่ำเสมอ
- เลี่ยง คาเฟอีนหลังบ่าย และแอลกอฮอล์ก่อนนอน
- ปรับให้ห้องนอน มืด เงียบ เย็น (ประมาณ 18–24°C)
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงคาร์ดิโอหนัก ๆ ก่อนนอน
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
- นอนไม่หลับต่อเนื่อง ≥ 3 คืน/สัปดาห์ นาน > 3 เดือน
- หลับไม่อิ่มร่วมกับเสียงกรนดัง/ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- ใช้ยานอนหลับหรือแอลกอฮอล์ช่วยหลับเป็นประจำ
- มีโรคประจำตัว/ยาหลายชนิด และต้องการใช้อาหารเสริมเมลาโทนิน
บริการ : ตรวจหาความสมดุลระดับฮอร์โมน
โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)
โกรทฮอร์โมน เป็นฮอร์โมนสายโปรตีนที่สร้างจาก ต่อมใต้สมอง (Pituitary gland) ช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมของทั้งร่างกาย หลังถูกหลั่ง GH จะกระตุ้น ตับและเนื้อเยื่อ ให้สร้าง IGF-1 (Insulin-like Growth Factor-1 หรือ Somatomedin) ซึ่งจะช่วยนำพาไปสู่กระดูก กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่าง ๆ
ประโยชน์ Growth Hormone
1. เสริมการเจริญเติบโตของเด็ก
โกรทฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาและการทำงานของอวัยวะทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงวัยเจริญเติบโต ฮอร์โมนนี้จะกระตุ้นให้ตับผลิต IGF-I (Insulin-like Growth Factor-I) ซึ่งช่วยให้เซลล์กระดูกอ่อนเกิดการแบ่งตัวและขยายขนาด เพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อบริเวณปลายกระดูกอ่อน ทำให้เด็กมีโอกาสสูงขึ้นและพัฒนาโครงสร้างร่างกายได้ดี
2. ช่วยส่งเสริมการนอนหลับ
โกรทฮอร์โมนจะถูกหลั่งออกมากที่สุดในช่วงการนอนหลับลึก (deep sleep) ซึ่งมีส่วนช่วยให้หลับสนิทและพักผ่อนได้เต็มที่ ในผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหานอนไม่หลับ ฮอร์โมนนี้มักลดลง การเสริมโกรทฮอร์โมนอาจช่วยปรับคุณภาพการนอนและลดการตื่นกลางดึก
3. ชะลอวัยและเสริมความแข็งแรงในผู้สูงอายุ
เมื่ออายุมากขึ้น ระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกายจะลดลงเฉลี่ยราว 14% ทุก 10 ปี ทำให้ร่างกายอ่อนแรง มีไขมันสะสมมากขึ้น สมรรถภาพลดลง และอารมณ์แปรปรวน การเสริมโกรทฮอร์โมนจึงช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมของร่างกาย รักษาความแข็งแรง และพละกำลังให้นานยิ่งขึ้น
4. ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ
โกรทฮอร์โมนช่วยขยายหลอดเลือดและกระตุ้นการสร้างไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศดีขึ้น เพิ่มการแข็งตัวในผู้ชาย และช่วยให้ระบบหล่อลื่นทำงานเป็นปกติ จึงช่วยลดปัญหาทางเพศที่มักเกิดตามวัย
5. สนับสนุนระบบเผาผลาญ
โกรทฮอร์โมนช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน ลดการสลายโปรตีน และส่งเสริมการใช้พลังงานจากไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และปรับสมดุลระบบเมตาบอลิซึมของร่างกาย
IGF-1 (Insulin-like Growth Factor-1)
Insulin-like Growth Factor 1 หรือ IGF-1 เป็นฮอร์โมนการเจริญเติบโตจากธรรมชาติที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในกระบวนการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
IGF-1 จะถูกสร้างขึ้นใน ตับ ภายใต้การกระตุ้นของ Growth hormone (GH) ซึ่งหลั่งจากต่อมใต้สมอง เมื่อร่างกายได้รับสัญญาณจาก GH ตับจะผลิต IGF-1 แล้วส่งต่อสัญญาณไปกระตุ้น แผ่นการเจริญเติบโตของกระดูก (Growth Plate) ทำให้กระดูกสามารถขยายและยืดยาว ส่งผลโดยตรงต่อความสูงและการเติบโตของโครงสร้างร่างกาย
ประโยชน์ของ IGF-1
- ช่วยเพิ่มความสูงในวัยเด็กและวัยรุ่น IGF-1 ช่วยกระตุ้น Growth Plate ทำให้กระดูกยืดยาวขึ้น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการเพิ่มส่วนสูงในเด็ก โดยเฉพาะช่วง Growth Spurt (ช่วงที่ร่างกายเติบโตเร็วที่สุด)
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ IGF-1 ช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อผ่านการกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนและการแบ่งเซลล์ ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีพละกำลัง
- เพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก IGF-1 มีบทบาทโดยตรงในการเพิ่มมวลกระดูก ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะกระดูกพรุนในอนาคต
- ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น ด้วยคุณสมบัติในการกระตุ้นการซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ IGF-1 จึงช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นหลังการออกกำลังกายหรือเจ็บป่วย
- ช่วยปรับสมดุลการเจริญเติบโตในเด็กที่มีปัญหาด้านพัฒนาการ เด็กที่มีภาวะเจริญเติบโตช้าเนื่องจากสุขภาพ พันธุกรรม หรือการขาดสารอาหาร หากสามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิต IGF-1 ได้มากขึ้น จะมีโอกาสเติบโตได้เทียบเท่าหรือสูงกว่าเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน
Reference:
1.Thyroid Hormone: What It Is & Function.
2.Hypogonadism in Men.
3.Hypothalamic-Pituitary-Ovarian Axis Disorders Impacting Female Fertility
4.Physiology, Aldosterone.
5.Melatonin: What You Need To Know
ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต
- แผนที่ : https://g.page/SiamClinicPhuket
- โทรศัพท์ : 088-488-6718 และ 093-692-5999
- Email : [email protected]
- Facebook inbox : https://m.me/siamclinicthailand
- Instagram : https://www.instagram.com/siamclinic
- Line@ : @siamclinic หรือแอด https://lin.ee/uny1D7n


